การนำเข้าเหล็กของสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นหรือลดลงในเดือนกันยายนจากปีที่แล้ว?

จากข้อมูลเบื้องต้นที่เผยแพร่โดย US Census Bureau ยอดนำเข้าเหล็กของสหรัฐฯ ทั้งหมดในเดือนกันยายน 2023 ลดลง 4.1% จากปีก่อนหน้าเป็น 2,185,000 ตันสั้น เนื่องจากการนำเข้าเหล็กกึ่งสำเร็จรูปที่เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบเป็นรายปีไม่สามารถชดเชยการลดลงได้ การนำเข้าเหล็กสำเร็จรูป การนำเข้าเหล็กกึ่งสำเร็จรูปของสหรัฐฯ ในเดือนกันยายนเพิ่มขึ้นร้อยละ 44.9 จากปีก่อนหน้าเป็น 606,000 ตันสั้น โดยมีสาเหตุหลักมาจากผลิตภัณฑ์จากบราซิลและเม็กซิโกที่เพิ่มขึ้นการนำเข้าเหล็กสำเร็จรูปลดลง 15.1% m/m เป็น 1.579 ล้านตันสั้นการนำเข้าผลิตภัณฑ์เหล็กสำเร็จรูปในเดือนกันยายนเหล็กเส้น, เหล็กลวด, แผ่นดีบุกการนำเข้าท่อน้ำมันพิเศษลดลงมากกว่าโซ่การนำเข้าเหล็กเส้นที่ลดลงส่วนใหญ่ได้รับผลกระทบจากการนำเข้าที่ลดลงจากแอลจีเรียและอียิปต์การนำเข้าเหล็กลวดที่ลดลงมีสาเหตุหลักมาจากการนำเข้าเหล็กลวดที่ลดลงจากญี่ปุ่น แคนาดา อียิปต์ แอลจีเรีย และเกาหลีใต้ ส่วนแบ่งการตลาดของการนำเข้าเหล็กสำเร็จรูปของสหรัฐฯ อยู่ที่ประมาณร้อยละ 20 ในเดือนกันยายน

ในช่วงเดือนมกราคม-กันยายน 2023 การนำเข้าเหล็กของสหรัฐฯ ลดลง 9.8% เมื่อเทียบเป็นรายปี เหลือ 21.842 ล้านตันสั้นในจำนวนนี้ การนำเข้าเหล็กสำเร็จรูปลดลง 15.0% เมื่อเทียบเป็นรายปี เหลือ 16.727 ล้านตันสั้น โดยการเติบโตของการนำเข้าท่อเฉพาะน้ำมัน ท่อเส้น และเหล็กแผ่นหนาปานกลางที่ตัดตามความยาว ไม่สามารถชดเชยการนำเข้าที่ลดลงได้ ส่วนพันธุ์ที่เหลือส่วนใหญ่ ส่วนแบ่งตลาดเหล็กสำเร็จรูปที่นำเข้าโดยสหรัฐอเมริกาในช่วงเดือนมกราคม-กันยายน 2566 อยู่ที่ประมาณ 22%

แคนาดา เม็กซิโก และบราซิล เป็นแหล่งนำเข้าเหล็กชั้นนำของสหรัฐฯ ในเดือนมกราคม-กันยายน โดยนำเข้า 5,255,000 ตันสั้น 3,338,000 ตันสั้น และ 3,123,000 ตันสั้น ตามลำดับ ซึ่งคิดเป็นการเติบโตปีต่อปีที่ 0.1% ซึ่งลดลง 20.8% และเพิ่มขึ้น 43.8% ตามลำดับนอกจากนี้ 1-9 เดือนที่สหรัฐอเมริกานำเข้าเหล็กจากเกาหลีใต้ 2.060 ล้านตันสั้น ลดลง 8.2% เมื่อเทียบเป็นรายปีการนำเข้าเหล็กจากญี่ปุ่น 890,000 ตันสั้น ลดลง 4.7% เมื่อเทียบเป็นรายปีการนำเข้าเหล็กจากเยอรมนี 760,000 ตันสั้น ลดลง 7.2% เมื่อเทียบเป็นรายปีการนำเข้าระยะสั้นจากจีนจำนวน 486,000 ตัน ลดลง 1.1% เมื่อเทียบเป็นรายปี

เหล็กลวด
โปรไฟล์เหล็ก

เวลาโพสต์: 14 พ.ย.-2023